ข้อความที่นักกิจกรรม 4 คนส่งจากยอดรถเครนในอินโดนีเซียหลังยึดรถเครนถึง 27 ชั่วโมง นั้นชัดเจน นั่นคือ "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา มันส่งผลกระทบต่อเราทุกคน ไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ที่ใด และการหยุดการทำลายป่าเป็นวิธีการที่รวดเร็วที่สุดและมีราคาถูกที่สุด ในการแตะเบรกความบ้าคลั่งที่กำลังพุ่งดิ่งตรงมาหาเรา"
จากยอดรถเครน 1 คัน และอีก 3 คันที่ถูกยึดจนถึงเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เราสามารถมองเห็นผืนป่าและป่าพรุอินโดนีเซียที่ถูกทำลายเป็นพื้นที่กว้างใหญ่และอ้างว้างทอดไปไกล ผืนป่าและป่าพรุนี้ถูกทำลายราบเรียบและเผาอย่างมีวิธีการ โดยบริษัทต่างๆ เช่น APP เพื่อเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่ปลูกต้นอาคาเซียและปาล์มน้ำมัน การทำเช่นนี้ทำให้ที่กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อันใหญ่มโหฬารถูกปลดล็อก และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกสู่บรรยากาศ เป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสู่ระดับที่อันตรายมากขึ้น
แม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะพยายามนำตัวนักกิจกรรมลงมา สิ่งที่พวกเขาทำ ได้แก่ การแกว่งเครน และการขมขู่อื่นๆ พวกเขา่ประจำที่คุมเข้มจนถึง 10 โมงเช้าของวันที่ 27 พ.ย. จากนั้นตำรวจได้กักตัวนักกิจกรรม และนำตัวไปยังสำนักงานใหญ่ของสถานีตำรวจเมืองเปกันบารูเพื่อสอบปากคำ กลุ่มนักกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยชาวเยอรมัน ดัช ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ได้แสดงให้ผู้นำโลกเห็นว่า การลงมือปฏิบัติในทันทีนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้และจำเป็น และการเปิดโปงอาชญากรสภาพภูมิอากาศ เช่น ซีนาร์ มาส ซึ่งมี APP เป็นบริษัทในเครือ เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นหายนะเกินควบคุม
ในเวลานี้ถึงเวลาที่ประธานาธิบดีโอบามา และผู้นำประเทศที่พัฒนาแล้วคนอื่นๆ จะจัดหาเงิน และช่วยประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า ในการปกป้องป่าของพวกเขา ในขณะเดียวกันประธานาธิบดียุดโฮโยโนควรเปลี่ยนพันธะสัญญาของเราเป็นการกระทำ โดยสั่งระงับการทำลายป่าในอินโดนีเซียในทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่เหลืออยู่จากปอดสีเขียวอันมีพลังมหาศาลจะไม่พ่ายแพ้ไปตลอดกาล
ค่ายผู้พิทักษ์ป่า เพื่อกู้วิกฤตโลกร้อนที่เปิดตัวเมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน บนคาบสมุทรกัมปาร์ ยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง และกรีนพีซจะคงอยู่ในใจกลางป่าฝนอินโดนีเซียต่อไป
Aucun commentaire:
Enregistrer un commentaire